กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการ โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. มอบทุนพัฒนาและสนับสนุนการดำเนินงานของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ หรือ สวท. เชียงใหม่ ผ่านโครงการพัฒนาการสื่อสารการส่งกระจายเสียงวิทยุภาคภาษาชนเผ่า 7 ชนเผ่าเพื่อให้ประชาชนที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ของประเทศไทยทั้ง 7 ชนเผ่าและอีก 2 ชนเผ่า ซึ่งมีประชากรรวมกว่า 1 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายขอบห่างไกลจากตัวเมืองให้ได้รับบริการด้านการกระจายเสียงเพื่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากภาครัฐ
เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงการบริการสาธารณะของรัฐขั้นพื้นฐาน รวมถึงการลดปัญหาทางสังคมทั้งทางด้านยาเสพติดและกระบวนการค้ามนุษย์ตลอดจนการรักษาวัฒนธรรมและเผยแพร่วิถีชีวิตชุนชนของกลุ่มชนเผ่า หวังนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพการติดต่อสื่อสารและเพิ่มความสามารถในการรู้เท่าทันสื่อของกลุ่มชาติพันธุ์อย่างยั่งยืน
นายนิพนธ์ จงวิชิต รักษาการผู้จัดการกองทุนวิจัยและพัฒนาฯ เปิดเผยว่า กทปส. มีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมได้ครอบคลุมและทั่วทุกพื้นที่ รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรสื่อสาร การพัฒนาบุคลาการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยในปลายปี 2560 ที่ผ่านมา กทปส. ได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาการสื่อสารการส่งกระจายเสียงวิทยุภาคภาษาชนเผ่า 7 ชนเผ่า ในเขตภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ดำเนินงานโดยสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ ที่เผยแพร่ผ่านทางระบบ A.M. 1476 กิโลเฮิรตซ์ (KHz) ภาคภาษาชนเผ่า ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อพัฒนาเนื้อหารายการวิทยุภาคภาษาชนเผ่าของประเทศไทย ตลอดจนการส่งเสริมและคุ้มครองผู้ด้อยโอกาสทางสังคมที่อยู่ตามพื้นที่สูงให้มีโอกาสได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงการพัฒนาผู้จัดรายการภาคภาษาชนเผ่าให้มีความสร้างสรรค์ในการจัดรายการเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ฟัง มีมาตรฐานทางจริยธรรม อีกทั้งยังเป็นการเปิดพื้นที่สื่อให้ประชาชนทุกชนเผ่าได้แสดงความคิดเห็น เผยแพร่วิถีวัฒนธรรมและประเพณีชนเผ่าสู่สาธารณะ รวมทั้งเพื่อเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพช่องทางการสื่อสารตามนโยบายรัฐบาลผ่านวิทยุกระจายเสียงระบบ A.M. 1476 กิโลเฮิรตซ์ (KHz) เพื่อให้ประชาชนทั้ง 7 ชนเผ่าประกอบด้วย ม้ง (แม้ว) เมี่ยน (เย้า) ลีซู (ลีซอ) ปเกอญอ (กะเหรี่ยง) อาข่า (อีก้อ) ลาหู่ (มูเซอ) และไทใหญ่ รวมทั้งอีก 2 ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่คือ ประหล่อง และคะฉิ่นให้ได้รับบริการด้านการกระจายเสียงอย่างทั่วถึง ครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย และขยายผลการรับฟังทางช่องทางสื่อสมัยใหม่ หรือออนไลน์ ไปยังพื้นที่อื่นๆ อาทิ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกของประเทศไทยที่มีกลุ่มประชาชนชาติพันธุ์ 9 ชนเผ่าพักอาศัยอยู่
สำหรับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ ในสังกัดสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์ก่อตั้งขึ้นปี พ.ศ. 2511 ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศเพื่อทำหน้าที่สื่อสารและสร้างความเข้าใจกับกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยบนภูเขาและตามแนวชายแดนภาคเหนือของประเทศไทย โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้สนับสนุนเครื่องส่งกำลังสูงถึง 100 กิโลวัตต์ ส่งกระจายเสียงระบบ AM ความถี่ 1476 กิโลเฮิรตซ์ (KHz) ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านทั้งเมียนม่า จีนตอนใต้ ลาว และเวียตนาม ซึ่ง สวท.เชียงใหม่ในยุคเริ่มต้นถือเป็นสถานีวิทยุเพื่อชาวเขาแห่งแรกในภาคพื้นเอเชียที่ได้รับความสนใจจากหน่วยงานและองค์กรระหว่างประเทศ ออกอากาศ 3 ภาษาได้แก่ ม้ง เมี่ยน และกระเหรี่ยง ต่อมาได้ขยายการออกอากาศเพื่อให้ได้ครอบคลุมทั้ง 7 ภาษาชนเผ่าที่มีในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ได้แก่ ม้ง เมี่ยน ลีซู กระเหรี่ยง อาข่า ลาหู่ และไทใหญ่ ซึ่งมีประชากรรวมกันมากกว่า 1 ล้านคน วิทยุภาคภาษาชนเผ่า สวท.เชียงใหม่ จึงกลายเป็นจุดศึกษาและแหล่งเรียนรู้ของหน่วยงาน องค์กรภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั้งด้านการส่งกระจายเสียงภาษาชนเผ่าและการเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมชนเผ่า
อย่างไรก็ดี จากสภาพของเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียง ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการออกอากาศและใช้งานมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 40 ปีและมีเพียงเครื่องเดียวเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพการใช้งาน ซึ่งทุกครั้งที่มีการใช้งานและเครื่องส่งมีปัญหาจะส่งผลให้ทุกช่วงรายการต้องงดออกอากาศจนกว่าจะหาอะไหล่มาซ่อมทดแทนจึงจะออกอากาศใหม่ได้ จากการสำรวจการรับฟังรายการได้รับการแจ้งว่าคลื่นกระจายเสียงของสถานีลดต่ำไปมาก เมื่อก่อนเคยส่งกระจายเสียงออกอากาศสูงถึง 100 กิโลวัตต์ แต่ปัจจุบันลดลงถึง 50 กิโลวัตต์และบางช่วงกำลังส่งลดลงเหลือเพียง 30-40 กิโลวัตต์เท่านั้น รวมถึงในบางครั้งเครื่องส่งคลื่นก็ขัดข้องชำรุดใช้งานไม่ได้ และมีจุดบอดในการรับฟังรายการในหลายพื้นที่ ส่งผลต่อการรับฟังข่าวสารที่เป็นประโยชน์ของประชาชนอย่างมาก
กทปส. เล็งเห็นว่าข้อมูลข่าวสารกลายเป็นปัจจัยสำคัญในทุกระดับ ท่ามกลางวิถีทางสังคม และวัฒนธรรมที่หลากหลาย แต่การสื่อสารของกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่ม หลายเชื้อชาติที่อพยพย้ายถิ่นเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นแผ่นดินไทย ในฐานะประชาชนคนไทยหรือคนชายขอบยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก ด้วยข้อจำกัดด้านภูมิประเทศที่อยู่ห่างไกลกว่าร้อย 60 ที่ไม่รู้ภาษาไทยทำให้คนเหล่านี้เข้าไม่ถึงบริการสาธารณะต่างๆ ขณะเดียวกันการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อกระแสหลักที่เป็นอยู่ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มชาติพันธุ์ อีกทั้งยังมีบางสื่อนำเสนอข้อมูลของกลุ่มชาติพันธุ์ในเชิงลบสร้างอคติทางเชื้อชาติ และยังกล่าวหากลุ่มชาติพันธุ์เป็นอันตรายต่อความมั่นของประเทศ ดังนั้น การเข้ามาให้ทุนสนับสนุนของ กทปส. จึงมีความจำเป็นและสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
“การให้ทุนสนับสนุนพัฒนาเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงเครื่องใหม่ที่กำลังส่งสูง ทดแทนเครื่องเก่าที่ใช้งานมาอย่างยาวนานถึง 40 ปี และการให้การสนับสนุนการดำเนินงานในส่วนอื่น ๆ ของวิทยุภาคภาษาชนเผ่า หรือ สวท. เชียงใหม่ ของ กทปส. จะทำให้การรับฟังข้อมูลข่าวสารของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ทั้ง 9 ชนเผ่า ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในฐานะผู้อพยพ คนชายขอบหรือคนต่างด้าวที่ด้อยโอกาสและไม่รู้ภาษาไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ให้ได้รับข้อมูลข่าวสารได้ทั่วถึง เป็นไปอย่างถูกต้อง และเสมอภาค ขณะเดียวกันยังได้รับฟังความคิดเห็นที่สะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ปัญหา ความต้องการและข้อจำกัดที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการสาธารณะด้านต่างๆ เพื่อให้พี่น้องชนเผ่าได้รับการปกป้องและคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานตามประเพณีการปกครองประเทศไทย” นายนิพนธ์ จงวิชิต กล่าว
นางสาวกนกรัตน์ ปัญญา นักสื่อสารมวลชนชำนาญการ สวท.เชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเผยแพร่ข่าวสารทางวิทยุภาคภาษาชนเผ่า ของสวท. เชียงใหม่ ได้กระจายไปถึงประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาว เชียงตุง และพม่า ซึ่งจากการสำรวจและสอบถามกลุ่มชนเผ่ายังระบุว่าหากวันไหนไม่ได้เสียงดีเจ หรือฟังรายการเหมือนไม่ได้กินข้าวไปหนึ่งมื้อ เหมือนขาดอะไรไปในชีวิตประจำวัน อย่างคนเฒ่าคนแก่ใครพูดอะไรจะไม่เชื่อ แต่เมื่อฟังจากรายการและดีเจกลุ่มนี้เชื่อฟังและปฏิบัติตามอย่างดีเลย ส่วนผู้ฟังภาษาไทใหญ่ในภาคเหนือมีประมาณ 100,000 กว่าคนแต่ยังไม่รวมถึงที่อยู่และฟังในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างรัฐชาน เมียนม่า จีน มาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาสามารถรับฟังผ่านช่องทางออนไลน์จากทางเว็บไซต์ของ สวท.เชียงใหม่ รวมถึงฟังผ่านรายการสดทางเพจรายการในเฟซบุ๊ค ซึ่งช่องทางดังกล่าวจะมีเพียงกลุ่มเด็กรุ่นใหม่เท่านั้นที่เข้ารับฟังได้ แต่คนรุ่นเก่าและไม่มีอินเทอร์เน็ตใช้ตามบ้านยังคงยืนยันการรับฟังรายการผ่านทางวิทยุภาคภาษาชนเผ่า ของสวท. เชียงใหม่”
สำหรับโครงการพัฒนาการสื่อสารการส่งกระจายเสียงวิทยุภาคภาษาชนเผ่า ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย เป็นโครงการที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ภายใต้ 4 กิจกรรม ทั้งการประชุมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาบุคลากรเพื่อเพิ่มทักษะการผลิตรายการวิทยุภาคภาษาชนเผ่าให้กับผู้จัดรายการและเครือข่าย 9 กลุ่มชาติพันธุ์ การพัฒนาระบบการส่งกระจายเสียงเพื่อให้พี่น้องชนเผ่าได้รับการบริการที่คลอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งทางระบบ on line และระบบ A.M.1476 รวมทั้งการพัฒนาประสิทธิภาพของช่องทางการสื่อสารให้ทั่วถึงและยั่งยืนต่อไป
บรรยายภาพกิจกรรมการลงพื้นที่และศึกษาดูงาน สวท. เชียงใหม่ กับหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง ดอยปุย