อลิอันซ์ อยุธยา ทุ่มเงินล้าน จับมือมูลนิธิ SOS ตั้งธนาคารอาหารออนไลน์ แห่งแรกของไทย

CSR

บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต สานต่อนโยบายความยั่งยืน เดินหน้าต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสู่สังคม จับมือมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ ประเทศไทย (มูลนิธิเอสโอเอส) จัดตั้งธนาคารอาหารออนไลน์ ด้วยระบบ คลาวด์ ฟู้ด แบงค์ ครั้งแรกในประเทศไทย มุ่งจัดการอาหารส่วนเกินอย่างเป็นระบบ นำส่งต่อแก่ชุมชนขาดแคลน องค์กรสาธารณะ และผู้ด้อยโอกาส หวังเป็นส่วนหนึ่งของการลดปัญหาขยะและอาหารเหลือทิ้งในเมือง ตั้งเป้าปีแรกส่งต่ออาหารส่วนเกิน 600 ตัน

มร.โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า “ตลอดการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย อลิอันซ์ อยุธยา ได้ดำเนินตามนโยบายของกลุ่มอลิอันซ์ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม มุ่งสร้างความยั่งยืน โดยยึดมั่นในหลักการ ESG (Environment Social และ Governance) ในสองสามปีที่ผ่านมา เรามุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การลดขยะ และการใช้พลังงาน เป็นต้น นอกจากนั้นในช่วงสถานการณ์โควิด ที่หลายคนประสบปัญหาเรื่องรายได้และความเป็นอยู่ เราได้สนับสนุนอาหารให้กับชุมชนที่ขาดแคลนทั่วกรุงเทพ ทำให้เรามองเห็นถึงความต้องการอาหารที่มีอยู่ และมองหาพันธมิตรที่จะร่วมช่วยกันเติมเต็มความต้องการดังกล่าว จึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิเอสโอเอส ซึ่งเป็นมูลนิธิที่มุ่งทำภารกิจเพื่อการลดปริมาณการสูญเสียอาหาร โดยนำอาหารส่วนเกินไปบริจาคให้แก่ผู้ที่ต้องการ โดยอลิอันซ์ อยุธยา ในฐานะบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี จึงอาสานำเทคโนโลยีเข้ามาต่อยอดภารกิจนี้ โดยได้จัดทำแพลตฟอร์ม คลาวด์ ฟู้ด แบงค์ ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางในการเชื่อมโยงผู้ที่ต้องการบริจาคอาหาร และกลุ่มคนที่ขาดแคลนอาหารมาเจอกัน สามารถจัดสรรการรับและการส่งต่ออาหารได้อย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนเงินจำนวนประมาณ 2 ล้านบาทในการจัดทำแพลตฟอร์มนี้ ถือเป็น ธนาคารอาหารออนไลน์แห่งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย”

ด้าน มร.เจมส์ เลย์สัน กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ กล่าวว่า “มูลนิธิเอสโอเอส มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่อลิอันซ์ อยุธยา เห็นถึงความสำคัญของการสร้างความยั่งยืนในสังคม โดยเฉพาะปัญหาเรื่องอาหารส่วนเกิน ที่มูลนิธิเอสโอเอสมุ่งให้ความสำคัญและดำเนินการเพื่อลดปริมาณการสูญเสียอาหารและป้องกันผลกระทบที่เกิดจากขยะอาหารมาอย่างต่อเนื่อง การที่อลิอันซ์ อยุธยา นำเทคโนโลยีเข้ามาต่อยอดการทำงานของเรา กลายเป็นระบบ SOS Cloud Food Bank จะทำให้สามารถเพิ่มศักยภาพการจัดการได้เป็นเท่าทวีคูณ ทั้งในแง่ของการเข้าถึงผู้บริจาคและผู้รับบริจาค การบริหารการจัดเก็บ และการส่งต่ออาหาร ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรผู้บริจาคอยู่ในระบบของเรากว่า 700 องค์กร และมีผู้รับความช่วยเหลือกว่า 1,000 ชุมชน ทั่วประเทศ เราเชื่อว่าเมื่อนำเทคโนโลยี จากอลิอันซ์ อยุธยาเข้ามาใช้งาน จะทำให้สามารถเพิ่มการรับและส่งต่ออาหารได้มากกว่าเดิมถึง 25% ซึ่งปีนี้เราตั้งเป้าการส่งต่ออาหารส่วนเกินไว้ที่ 600 ตัน ซึ่งนั่นหมายถึงการสร้างความเท่าเทียมให้แก่ผู้ที่ขาดแคลนได้เพิ่มขึ้นผ่านการแจกจ่ายอาหารส่วนเกินคุณภาพสูงที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบคลาวด์ ฟู้ด แบงค์ (Cloud Food Bank) เป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการจัดทำโดย อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ทำหน้าที่เชื่อมโยงผู้ที่ต้องการบริจาคอาหาร และกลุ่มคนที่ขาดแคลนอาหารมาเจอกัน โดยมีมูลนิธิเอสโอเอส โครงการรักษ์อาหาร (SOS Thailand) เป็นตัวกลางในการจัดสรรการรับและการส่งต่ออาหารอย่างเป็นระบบ โดยผู้บริจาคและผู้รับบริจาค ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ เพื่อให้มูลนิธิสามารถตรวจสอบและติดต่อประสานงานได้ โดยปัจจุบันยังกำหนดให้ผู้รับบริจาคเป็นกลุ่มบุคคล เช่น หัวหน้าชุมชน องค์กรสาธารณะที่มีภารกิจในการดูแลผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น โดยประเภทอาหารที่ต้องการ ได้แก่ อาหารกระป๋อง อาหารปรุงสาเร็จ ของว่าง (Boxset) ข้าวสาร เส้นก๋วยเตี๋ยว อาหารแห้ง ขนมปัง Bakery ผัก ผลไม้ นม นมผง ผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์แช่แข็ง กระดูกไก่ ไข่ เต้าหู้ น้ำดื่ม น้ำผลไม้ เครื่องปรุงต่าง ๆ อาทิ น้ำมัน น้ำปลา น้ำส้มสายชู เป็นต้น
ปัจจุบัน มีองค์กรธุรกิจอาหาร โรงแรม ร้านอาหาร กว่า 700 องค์กร เข้าร่วมเป็นผู้บริจาคโครงการอย่างต่อเนื่อง อาทิ MK Restaurant Group Hilton Hotels Malee Central Food Halls และ S&P เป็นต้น ผู้สนใจเป็นผู้บริจาคหรือรับบริจาคสามารถลงทะเบียนในระบบคลาวด์ ฟู้ด แบงค์ ได้ที่ www.cloudfoodbank.org หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทร 095-553-2795