วาณิชธนกิจโลก ชี้ “Big Data” คือ อาวุธใหม่ของนักลงทุน พร้อมชี้ช่องมองไกลกว่าด้วยหุ้นระดับโลกเพื่อผลตอบแทนเหนือตลาด

IT & Start Up

เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นทุกขณะ มีผู้คนกว่าครึ่งโลกที่ใช้ออนไลน์ จนกลายเป็นแหล่งเก็บข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ Big Data” ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย ไม่เว้นแม้แต่ระบบการเงินและการลงทุน. TMB Wealth Banking ได้จัดงานTMB Investment Talk: กลยุทธ์สร้างผลตอบแทนเหนือตลาดด้วยหุ้นระดับโลก” โดยได้จับมือร่วมกับพันธมิตรอย่าง บลจ.ทหารไทย ในการเปิดตัว กองทุนเปิดทีเอ็มบี อีสท์สปริง Global Core Equity หรือ TMB-ES-GCORE ซึ่งเป็นกองทุนที่นำ Big Data และ AI มาประยุกต์ใช้ในการเลือกหุ้น นอกจากนี้ยังได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจาก Goldman Sachs Asset  Management มาชี้ให้เห็นถึงความน่าสนใจของการนำเทคโนโลยีและBig Data มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการลงทุนและบริหารสินทรัพย์ทางการเงิน

Ms.Jessica Jones, Head of Retail Client Business, Asia Ex-Japan for Goldman Sachs Asset  Management ระบุว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเรามีข้อมูลต่างๆอยู่ในมืออย่างมากมาย ซึ่งในอดีตได้ถูกนำมาใช้งานเพียง 2% เท่านั้น ส่วนข้อมูลเหลือกลับไม่ได้ถูกนำมาใช้ทั้งนี้เนื่องจากเป็นข้อมูลที่มีความซับซ้อนและจำเป็นต้องอาศัยซอฟแวร์เพื่อการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และรองรับระบบปฏิบัติการต่างๆ เพื่อให้การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพก่อนนำมาใช้ ซึ่งต้องพยายามนำเอาข้อมูลเหล่านี้มาใช้เพื่อช่วยในการลงทุน  ไม่นับถึงเรื่องของการลงทุนเพิ่มเติมด้านข้อมูลเชิงลึกเพื่อการวิเคราะห์ถึงแนวโน้มของสังคมและเศรษฐกิจที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของวาณิชธนกิจอย่าง Goldman Sachs  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โดยผสานทั้งเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญจากทีมเทคโนโลยีด้านไฟแนนซ์ นักวิเคราะห์ทางการเงินของสถาบัน ทำหน้าที่วิเคราะห์จากข้อมูลต่างๆ เช่น พฤติกรรมของผู้บริโภคที่ทำในชีวิตประจำวัน โดยมีตัวอย่างที่น่าสนใจคือ กรณีของ Netflix ที่เก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้านำมาวิเคราะห์จนเข้าใจลูกค้าและแนะนำหนังที่ตรงกับความต้องการ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งสร้างรายได้จำนวนมาก

“ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเรายืดถือเรื่องของการใช้นำข้อมูลทุกอย่างมาใช้อย่างละเอียด โดยทีมนักวิเคราะห์ที่เรามีอยู่ทั่วโลก ซึ่งจะพิจารณาถึงข้อมูลของกลุ่มธุรกิจที่จะลงทุนอย่างละเอียด เพื่อมองหาโอกาสเพื่อสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน  มาในวันนี้เมื่อการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีทำให้เรามีเครื่องมือต่างๆในการช่วยวิเคราะห์ได้มากขึ้น มีทั้ง AI และแมชชีนเลิร์นนิ่ง มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลให้ได้แม่นยำขึ้น อาทิ ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของตลาด มุมมองของนักลงทุน รวมทั้งเรื่องเทรนด์ เพราะอุตสาหกรรมต่างๆ มีความเกี่ยวข้องกัน จุดนี้สามารถใช้เทคโนโลยีมาช่วยดูความสัมพันธ์เพื่อหาแนวโน้มของตลาด  ซึ่งทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มของกำไรได้ก่อนได้รับรายงานทางบัญชี จึงสามารถตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นได้เร็วกว่า”

นอกจากนี้การใช้แมชชีนเลิร์นนิ่ง ยังสามารถวิเคราะห์ เพื่อจับสัญญาณในการปรับขึ้นหรือลดเรทติ้งของนักวิเคราะห์ได้อีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากนักวิเคราะห์แต่ละรายนั้นจะมีการวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ต่างๆ แตกต่างกัน ส่งผลถึงสไตล์การเขียนวิเคราะห์ที่ต่างกัน   การใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งให้เข้าถึงบทวิเคราะห์จำนวนมาก ก็จะช่วยทำให้ประเมินทิศทางการลงทุนในแง่มุมต่างๆได้ก่อน นำไปสู่การตัดสินใจซื้อหรือขายที่รวดเร็วกว่า ไม่ต้องรอดูบทวิเคราะห์ที่มาพร้อมคำแนะนำว่าควรซื้อหรือขาย และราคาเป้าหมายอยู่ที่เท่าไหร่ เนื่องจากปัจจุบันการตอบสนองและการซื้อขายหุ้นในตลาดเป็นไปอย่างรวดเร็ว หากไม่มีเวลาติดตามใกล้ชิดการตัดสินใจช้าจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย

จุดที่น่าสนใจมากคือ เป็นกองทุนที่นำAI มาประยุกต์ใช้ในการเลือกหุ้น โดยนอกจากการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานเชิงคุณภาพแล้ว ยังมีการนำ Big Data มาประยุกต์ใช้กับ Machine learning เพื่อการศึกษาอารมณ์ตลาด และคาดการณ์พฤติกรรมของหุ้น

Tagged