ดีป้า จับมือ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และพันธมิตร เร่งช่วยองค์กรธุรกิจรับมือกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ระดมผู้เชี่ยวชาญสร้างมือดี PDPA 1,000 ราย นำไปสู่การแปรรูปเศรษฐกิจดิจิทัลในระยะยาว

IT & Start Up

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ตามโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศไทย วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ถือเป็นเสาหลักสำคัญที่สร้างการการจ้างงานได้ถึง 12 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 72 ของประเทศ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส (Covid-19) รวมไปถึงการ Disrupt จากคู่แข่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ผู้ประกอบการ SMEs ต้องเร่งปรับตัวนำเทคโนโลยีดิจิทัลประยุกต์ใช้กับธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและดำเนินธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลต่อไปได้

“ดีป้า เล็งเห็นว่า ผู้ประกอบการ SMEs มีความจำเป็นที่ต้องประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลด้านการเชื่อมโยงข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อยกระดับและสร้างแต้มต่อในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลด้วย การประกาศใช้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) ส่งผลให้ทุกองค์กร รวมไปถึงผู้ประกาศ SMEs จำเป็นต้องปรับกระบวนการการบริหารจัดการ เพื่อรองรับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม และครอบคลุมไปถึงประเด็นการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ด้วย เพราะหาก SMEs ต้องประสบปัญหาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้วไปละเมิดต่อกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว อาจเกิดการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายและส่งผลถึงขั้นธุรกิจล้มละลายก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้ ดีป้า จึงได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตร จัดโครงการส่งเสริมทักษะการบริหารจัดการเกี่ยวกับแนวปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 สำหรับภาคธุรกิจ เพื่อให้ SMEs มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว และสามารถประยุกต์ใช้เทคนิคการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่องค์กรของตนเองจัดเก็บหรือนำไปประมวลผล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า แม้ว่ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเลื่อนบังคับใช้ในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้ SMEs จำนวนมากขาดการตระหนักในการเตรียมความพร้อม แต่ทางสมาพันธ์เองกลับพยายามที่จะเตรียมการเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน ทั้งในเรื่องบุคลากรต่าง ๆ เช่น ทีมที่ปรึกษา ทีมตรวจสอบ ทีมฝึกอบรม ทีม outsource รวมถึงทีมไอทีทางด้านระบบความปลอดภัย

โครงการส่งเสริมทักษะการบริหารจัดการเกี่ยวกับแนวปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 สำหรับภาคธุรกิจ ในช่วงนี้ถือว่าเป็นระยะแรก ถือเป็นการวางรากฐานความรู้ทางด้าน PDPA โดยในระยะต่อไปจะเป็นการสร้างความเชี่ยวชาญขั้นสูง เพื่อให้ SMEs สามารถจัดการเรื่องความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเข้าสู่ระดับมาตรฐานต่อไป

ดร.อุดมธิปก ไพรเกษตร​ ผู้ก่อตั้งสื่อ PDPA Thailand และเลขาธิการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า ในโครงการนี้กลุ่มเป้าหมายขั้นแรกคือ ผู้ประกอบการ ผู้บริหาร หรือผู้แทนของหน่วยงานธุรกิจเอกชน กลุ่ม Mid- Career จากทั่วประเทศ ไม่น้อยกว่า 1,000 คน ผู้เข้าอบรมจะผ่านการทดสอบและได้รับวุฒิบัตรภายใต้หลักสูตร Personal Data Protection Act (แนวปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสถาบันพัฒนาและทดสอบทักษะดิจิทัล

การอบรมพื้นฐานแนวปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลผ่านรูปแบบ E-learning ซึ่งสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ได้ร่วมกับสถาบันพัฒนาและทดสอบทักษะดิจิทัล (DDTI) พัฒนาหลักสูตรขึ้น ในรูปแบบ E-learning จำนวน 18 ชั่วโมง และผู้เข้าอบรมจะต้องผ่านการทดสอบความรู้พื้นฐานจากสถาบันพัฒนาและทดสอบทักษะดิจิทัล โดยมีระยะเวลาในการอบรม 3 เดือน

ตัวอย่างหัวข้ออบรมที่น่าสนใจ เช่น การบังคับใช้กฎหมาย, ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล, หน้าที่ตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ประมวลผล, ข้อมูลส่วนบุคคล และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO), สิทธิเจ้าของข้อมูล, สิ่งที่องค์กรต้องเตรียม, การจัดเตรียมเอกสาร, Consent Form, Cookie Policy, Data Flow Diagram เป็นต้น